Testimonials FAQ Photo Gallery Contact Us Mail to Friend
Home Director Training Seminars & events News Join IOD IOD Members Projects Publications IOD Shop About IOD
เหตุใดผู้บริหารจึงล้มไม่เป็นท่า: 3 ข้อผิดพลาด-ที่พบบ่อย-แต่หลีกเลี่ยงได้

เหตุใดผู้บริหารจึงล้มไม่เป็นท่า: 3 ข้อผิดพลาด-ที่พบบ่อย-แต่หลีกเลี่ยงได้

ประมาณครึ่งนึงของผู้บริหาร บริหารงานล้มเหลว แต่สาเหตุนั้นพบได้บ่อยอย่างไม่น่าเชื่อและสามารถป้องกันได้

50% ของผู้บริหาร บริหารงานล้มเหลวภายในสองปีแรกของการทำงาน นี่เป็นสถิติที่น่าตกใจและมักนำไปสู่คำอธิบายที่เรียบง่าย เป็นเรื่องง่ายที่จะพูดว่า “คุณไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำ” หรือ “กลายเป็นว่าอันที่จริงคุณไม่เหมาะสมกับที่นี้” แต่การทำความเข้าใจให้มากขึ้นว่าเหตุใดผู้บริหารที่บริหารงานล้มเหลวนั้นมีความสำคัญต่อการป้องกันไม่ให้เกิดความล้มเหลวในอนาคต และจำเป็นต่อการสร้างความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งให้แก่ผู้นำระดับสูง

ในความเป็นจริง งานของผู้บริหารเป็นงานที่หนักหน่วง หน้าที่รับผิดชอบนี้สามารถทำให้ผู้นำที่ฉลาด มีความสามารถ และประสบความสำเร็จสะดุด เลิก หรือ ถึงขั้นเปลี่ยนอาชีพไปได้โดยสิ้นเชิง

หนึ่งในข้อผิดพลาดคือการคิดว่างานนั้นยากเกินไปและยอมรับในอัตราความล้มเหลวที่สูงลิ่ว แต่เราได้ทำงานร่วมกับผู้บริหารหลายพันคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และโดยส่วนใหญ่แล้วความท้าทายที่พวกเขากำลังเผชิญนั้นเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง แต่แค่ไม่มีใครพูดถึงพวกเขาเท่านั้นเอง


คำเตือน: ข้างหน้ามีกับดัก
ในขณะที่ความกดดันเหล่านี้ดูเป็นเรื่องทั่วไป ผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หนึ่งในปัจจัยสำคัญนั้นเป็นเรื่องภายนอก เช่น วัฒนธรรมองค์กร การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ หรือผลกระทบต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือวิธีการที่ผู้บริหารจัดการกับความกดดันเหล่านี้ อย่างไรก็ตามความท้าทายเดียวกันนี้ทำให้ผู้บริหารสะดุดซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงผู้นำที่เพรียบพร้อมทั้งศักยภาพและประวัติการทำงาน แต่ละคนเกี่ยวข้องกับแรงกดดันเหล่านี้แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยส่วนบุคคล ตลอดจนความแข็งแกร่งหรือจุดอ่อนของทักษะของตน

ในบทความนี้เราจะพูดถึงข้อผิดพลาดทั่วไปสามประการ ที่อธิบายว่าเหตุใดผู้บริหารจึงต้องดิ้นรนและล้มเหลว—บ่อยกว่าที่ใคร ๆ คิด สิ่งเหล่านี้ได้ถูกรวบรวมจากประสบการณ์ในทีมของเราจากการมีส่วนร่วมในการฝึกอบรมผู้บริหาร โดยเฉพาะโปรแกรมการฝึกอบรมเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร (executive transition coaching program) ของเรา ที่สำคัญกว่านั้น เราจะบอกวิธีรับรู้อาการของแต่ละข้อผิดพลาดและสิ่งที่ต้องทำเมื่อเจอข้อผิดพลาดนั้น ๆ

ข้อผิดพลาด #1: Unfiltered Focus (การไม่คัดกรองสิ่งที่ต้องโฟกัส)

คืออะไร: ขนาดของการจัดการจาก 30 คน เป็น 200 คน นั้นใหญ่มาก ทันใดนั้นเองผู้คนจำนวนมากต่างมาขอเวลา ความสนใจ และทรัพยากร จากคุณ ความต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและประสบความสำเร็จตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นทำให้ผู้บริหารส่วนใหญ่มักตอบกลับไปว่า “ได้สิ” ในหลาย ๆ สิ่งมากเกินไป แต่การจัดลำดับความสำคัญบนเส้นทางนี้มีมากเกินไปทำให้ขาดจุดโฟกัส ในขณะที่ผู้บริหารและทีมของพวกเขาทำงานเพื่อสร้างความก้าวหน้าในทุกสิ่งแต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาไม่ได้ก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในด้านใด ๆ เลย

วิธีการรับรู้: โดยปกติคุณจะเห็นแผนกที่ยุ่งมากอย่างไม่น่าเชื่อ อาจถึงขั้นทำงานหนักและแลดูเหนื่อยล้า ในขณะเดียวกันกลับมีความคืบหน้าน้อยมาก พวกเขาพลาดกำหนดเวลา ละทิ้งโครงการ และมักจะขาดทรัพยากรด้านใดด้านหนึ่งเสมอ

สาเหตุ: บ่อยครั้งที่สาเหตุนั้นมาจากสิ่งดี ๆ ที่มีมากเกินไป ผู้บริหารเริ่มต้นบทบาทที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและแนวคิดในการสรรค์สร้างนวัตกรรม แต่หากไม่มีการคัดกรองและจัดลำดับความสำคัญที่เหมาะสมก็ยากที่จะก้าวหน้าได้ ผู้บริหารอาจพบว่าตัวเองลงลึกเกินไปในรายละเอียด และเมื่อรวมกับความไม่เด็ดขาด (ซึ่งมักพบได้ทั่วไปในหมู่ผู้บริหารในการมอบหมายงานใหม่ ๆ) กลายเป็นสองเรื่องที่เมื่อรวมกันแล้วจะส่งผลกระทบเชิงลบเป็นอย่างมาก

วิธีการรับมือ: ขั้นแรก ให้รับรู้ว่าสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้น ไม่มีการสนับสนุนหรือการโค้ช ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนไม่ได้รับ ประการที่สอง ผู้บริหารต้องจัดลำดับความสำคัญตามสิ่งที่ขับเคลื่อนคุณค่าและผลกระทบเสียก่อน สิ่งนี้อาจดูเป็นเรื่องที่ชัดเจนตรงไปตรงมา แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าความพยายามในการโค้ชผู้บริหารของเราส่งผลให้มีการจัดลำดับความสำคัญใหม่อย่างมีนัยสำคัญและการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ผู้บริหารเห็นว่าสำคัญที่สุด ผู้บริหารพบคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ในการแบ่งความพยายามในการเปลี่ยนแปลงออกเป็นระดับความสำคัญตามผลกระทบเชิงกลยุทธ์ การทำเช่นนี้ร่วมกับพาร์ทเนอร์หรือโค้ชสามารถทำให้การคิดเกี่ยวกับวิธีการที่มีความหมายมากขึ้นและก้าวหน้าเร็วขึ้นได้

ข้อผิดพลาด #2: Network Isolation (การแยกเครือข่าย)

คืออะไร: สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้บริหารล้มเหลวคือการดิ้นรนเพื่อสร้างและรักษาเครือข่าย นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเข้ากับคนอื่นไม่ได้ แต่มักจะคุ้นเคยกับการปฏิบัติงานอย่างอิสระคนเดียวมากกว่า เมื่อครั้งที่พวกเขาทำงานในระดับก่อนหน้านี้ ว่าที่ผู้บริหารเหล่านั้นต้องเริ่มคิดให้กว้างขึ้นและเชิงรุกว่างานก่อน ๆ ของพวกเขา ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มอื่นอย่างไรบ้าง ข้อผิดพลาดนี้กลายเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทต่าง ๆ ได้เปลี่ยนรูปแบบการทำงาน จากที่เคยมาทำงานในออฟฟิศไปเป็นการทำงานที่บ้านหรือนอกสถานที่

วิธีการรับรู้: คุณจะเริ่มเห็นความไม่เห็นพ้องต้องกันและความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่าง ๆ เรียกได้ว่าผู้บริหารจะเห็นการต่อต้านของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนและโครงการต่าง ๆ ขาดการสนับสนุนจากทีมอื่น ๆ ผลกระทบจากเรื่องนี้ที่แลดูยากที่สุดอย่างหนึ่งคือ พวกเขาอาจได้รับการตอบสนองเชิงบวกจากทีมของพวกเขาเอง แต่นั่นอาจเกิดขึ้นพร้อมกับความไม่เห็นด้วยและขาดความเคารพต่อทีมอื่น ๆ และสร้างความไม่เต็มใจที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงของบริษัทในวงกว้างด้วย

สาเหตุ: สาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือ อคติในการทำงาน ผู้บริหารมักให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่พวกเขามีความเชี่ยวชาญและไม่สนใจเรื่องที่อยู่นอกอนาเขต comfort zone ของพวกเขาเอง นอกจากนี้คนที่สงวนตัวหรือเก็บตัวมากกว่าอาจลังเลที่จะเริ่มการเชื่อมต่อกับบุคคลในสิ่งที่ต้องการได้

วิธีการรับมือ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้บริหารแสวงหาการเปิดเผยต่อกลุ่มอื่น ๆ ในธุรกิจ รวมถึงเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จของพวกเขาหรือไม่ พวกเขายังต้องให้ความสนใจอย่างรอบคอบเพื่อให้การสื่อสารมีความครอบคลุมมากขึ้น พวกเขาควรพิจารณาเสนอแผนและแนวคิดต่อเพื่อนร่วมงานเพื่อรับฟังข้อกังวลและการสนับสนุนที่ปลอดภัยก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าต่อไป

ข้อผิดพลาด #3: Un-Coaching (ไม่ได้รับการโค้ช)

คืออะไร: ในตำแหน่งก่อนหน้านี้ ผู้นำมักจะโค้ชทีมของพวกเขาในเรื่องทางเทคนิคเฉพาะทางมากกว่า แต่เมื่อก้าวขึ้นสู่ระดับตำแหน่งผู้บริหาร ก็ถึงเวลาที่ต้องคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่อง Talent ให้กว้างขึ้นด้วย “การไม่ได้รับการโค้ช” เกิดขึ้นเมื่อผู้บริหารมองข้าม หรือพลาดโอกาสในการโค้ช พัฒนา และเพิ่มพูนทักษะของทีมของพวกเขา

วิธีการรับรู้: เมื่อคุณเห็นทีมที่มีการเข้าออกของพนักงานสูง—โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกไปอย่างกระทันหันของผู้ที่ทำผลงานได้โดดเด่น—อาจเกิดขึ้นเพราะการไม่ได้รับการโค้ช นอกจากนี้ ในบรรดาผู้ที่ยังอยู่ กลับกลายเป็นผู้ที่ทำผลงานได้ระดับกลาง ๆ และมีอัตราส่วนที่สูงมาก อีกทั้งคุณอาจเห็นคะแนนการมีส่วนร่วมที่และประสิทธิภาพการทำงานค่อนข้างต่ำในทุก ๆ แผนก

สาเหตุ: กับดักนี้เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ในหลายกรณีผู้บริหารเลือกใช้กระบวนการคิดแบบ sink-or-swim และการโค้ชก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำสำหรับพวกเขา ผู้บริหารคนอื่น ๆ อาจขาดความมั่นใจในตนเองและรู้สึกว่าถูกคุกคามจากผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความสามารถ หรืออาจมองไม่เห็นศักยภาพในตัวของผู้อื่นเพราะหมกมุ่นอยู่กับงานของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามผลลัพธ์ที่ได้รับคือความเหนื่อยล้า ทีมงานของพวกเขาล้มเหลวในการเติบโต ทำให้เกิดความคล่องตัวน้อยลงในขณะที่ธุรกิจเร่งพัฒนามากขึ้น

วิธีการรับมือ: ผู้บริหารที่แข็งแกร่งที่สุดจะเปลี่ยนความคิดให้ห่างไกลจากสิ่งเล็ก ๆ กลุยุทธ์ในการโค้ช และการคิดแทน เกี่ยวกับการพัฒนาขีดความสามารถที่กว้างขึ้นในทีมของตน ซึ่งหมายถึงการค้นหาโอกาสในการขยับขยายความรับผิดชอบของสมาชิกในทีมอย่างต่อเนื่อง ขยายขอบเขตงานต่าง ๆ ของพวกเขา และส่งเสริมในการสร้างผลงานทางธุรกิจที่นำไปสู่การมอบหมายงานที่พวกเขาสามารถฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ท้ายที่สุดนี้ นี่คือการคำนึงถึงความรับผิดชอบในการเพิ่มพูนผู้ที่มีความสามารถในองค์กร ไม่ใช่แค่การโค้ชประเดี่ยวประด๋าวนั่นเอง

ความล้มเหลวของผู้บริหาร: สาเหตุอันดับ 1

จากการวิจัยและประสบการณ์ของเราแสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารเป็นผู้นำที่ต้องการการสนับสนุนมากที่สุดและมีโอกาสน้อยที่สุดในการร้องขอความช่วยเหลือ และนี่จะช่วยอธิบายว่าเหตุใด สาเหตุส่วนใหญ่ของความล้มเหลวของผู้บริหารคือการขาดการสนับสนุน

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเราได้สัมภาษณ์ผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลหลายท่าน เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อผู้คนกลายเป็นผู้บริหารในองค์กรของตน และนี่คือคำพูดบางส่วนจากพวกเขา:

“โดยส่วนใหญ่แล้วมันเป็น ‘ขอแสดงความยินดี - ลุยเลย’ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเราไม่ได้ทำอะไรเพื่อพวกเขา”
“ถ้าเป็นเรื่องภายในก็ไม่มีอะไรมาก เราส่งประกาศทั่วทั้งบริษัทเกี่ยวกับการโปรโมต เปลี่ยนแผนผัง และส่งพวกเขาออกไปเลย”
“เรียกได้ว่าไม่มีอะไรนะ – มันเพิ่งถูกมองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่ลำดับชั้นถัดไป”

สังเกตเห็นสิ่งที่คล้ายกันมั้ย? ผู้บริหารส่วนใหญ่มักไม่ได้รับอะไรเลยที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของพวกเขา

เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าเหตุใดผู้บริหารจึงล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง แต่ใช้เวลาพิจารณาสาเหตุของมันสักครู่ ค่าใช้จ่ายในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้นำที่มีภารกิจสำคัญเหล่านี้—ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณลงทุนมาหลายต่อหลายปี—มีมูลค่าสูงมาก

แต่ข้อผิดพลาดเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน ข้อผิดพลาดของผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นเรื่องธรรมดาและสามารถคาดเดาได้ การสร้างความตระหนักรู้และความคล่องตัวในการแก้ไขปัญหา หรือเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราช่วยผู้บริหารในทุก ๆ วัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่ารอ..จนสายเกินไป

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร Executive Transition Coaching program ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้บริหารรับรู้และหลีกเลี่ยงกับดักที่รอพวกเขาอยู่โดยเฉพาะ

ดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร

ทีม Executive Services ของ DDI คือกลุ่มที่ปรึกษาและโค้ชระดับผู้บริหารที่มีประสบการณ์หลายสิบปีในการช่วยให้ผู้นำประสบความสำเร็จในการก้าวกระโดดสู่บทบาทสูงสุด พวกเขาจะช่วยคุณสร้างบัลลังก์ผู้บริหารที่แข็งแกร่ง เลือก และเตรียมผู้นำระดับสูงที่เหมาะสม เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์และความสำเร็จขององค์กรของคุณ



Articles Previous Next
 
ข้อกำหนดและเงื่อนไข | นโยบายความเป็นส่วนตัว | ผังเว็บไซต์ | Share to
Copyright © 2010 Thai Institute Of Directors. Site by Redlab
Our
Sponsors
SCBx BBL IVL Kbank BCP CPF GPSC IRPC PTT PTTEP PTTGC PTTOR SCG Singha TISCO TOP
Our
Partners
CAC SET SEC OECD CBNC CG Thailand